แผ่นวงจรพิมพ์ที่มีส่วนประกอบของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีชื่อเรียกทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ได้แก่ Printed Circuit Assembly (PCA), Printed Circuit Board Assembly หรือ PCB Assembly (PCBA), Printed Wiring Boards หรือ Printed Wiring Card (PWC) แต่ถึงแม้ว่าจะมีชื่อเรียกแผ่นวงจรพิมพ์ที่หลากหลาย โดยทั่วไปแล้วก็ยังคงใช้ชื่อเรียกว่า Printed Circuit Board (PCB) มากที่สุด สำหรับในบทความนี้จะใช้ชื่อเรียกในภาษาไทยว่า “แผ่นวงจรพิมพ์”
ส่วนแผ่นวงจรพิมพ์ที่เป็นเมนบอร์ด (Mainboard) ในคอมพิวเตอร์เรียกว่า ซิสเต็มบอร์ด (System Board) หรือมาเธอร์บอร์ด (Motherboard)
แผ่นวงจรพิมพ์หรือ Printed Circuit Board คืออะไร
เมื่ออ้างอิงจากวิกิพีเดีย (Wikipedia) ความหมายของแผ่นวงจรพิมพ์ได้อธิบายไว้ดังนี้
“แผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) เป็นโครงสร้างแบบแซนด์วิชที่ประกอบด้วยชั้นบางๆ ของชั้นตัวนำไฟฟ้าและชั้นของฉนวน แผ่นวงจรพิมพ์จะมีหน้าที่สมบูรณ์ 2 ประการ ประการแรกคือการติดตั้งชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในตำแหน่งที่กำหนดบนชั้นนอกโดยใช้วิธีการบัดกรี ประการที่สองคือการจัดเตรียมการเชื่อมต่อทางไฟฟ้าที่เชื่อถือได้ระหว่างขั้วต่อของอุปกรณ์ ในลักษณะที่มีการจัดเตรียมไว้แล้ว ซึ่งมักเรียกว่า “การออกแบบแผ่นวงจรพิมพ์” ชั้นตัวนำไฟฟ้าแต่ละชั้นได้รับการออกแบบด้วยรูปแบบงานศิลปะ (Artwork) ของแต่ละตัวนำไฟฟ้า (คล้ายกับสายไฟลากบนพื้นเรียบ ๆ) ที่มีการเชื่อมต่อทางไฟฟ้าบนชั้นตัวนำไฟฟ้านั้น ๆ ในขณะที่กระบวนการผลิตได้มีการเพิ่มตัวเชื่อมต่อระหว่างชั้น (Vias) – รูขนาดเล็กและมีตำแหน่งที่แม่นยำ ซึ่งเจาะผ่านแผ่นที่เป็นชั้นฉนวนบางๆ (Laminate) แล้วชุบด้วยทองแดง จุดแวะในแผ่นวงจร คือการเชื่อมต่อทางไฟฟ้าระหว่างชั้นตัวนำต่าง ๆ ที่มีการหุ้มด้วยฉนวนไว้ในโครงสร้างชั้นฉนวน (Laminate) และทำให้เพิ่มความสำคัญหรือคุณค่าของการเชื่อมต่อระหว่างชั้นนำไฟฟ้าในลักษณะที่ควบคุมได้ ซึ่งรวมทั้งความน่าเชื่อถือและความคุ้มค่าสำหรับการผลิตจำนวนมากของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์”
แผ่นวงจรพิมพ์ส่วนใหญ่มีลักษณะแบน (Flat) และแข็ง (Rigid) แต่ก็ยังมีวัสดุฐานรอง (Substrate) ที่มีความยืดหยุ่นสามารถช่วยให้แผ่นวงจรพิมพ์มีขนาดพอดีกับพื้นที่ที่มีความซับซ้อนได้
สิ่งที่น่าสนใจก็คือส่วนใหญ่แผ่นวงจรพิมพ์ทั่วไปชั้นฉนวนจะทำมาจากพลาสติก (Plastic), ใยแก้ว (Fiberglass) หรือยางสังเคราะห์ (Resin Composites) และชั้นตัวนำใช้เทรซด้วยทองแดง (Copper Traces)